ถั่วเหลือง
คือ อีกหนึ่งธัญพืชทิพย์ ที่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับว่าเป็นแหล่งของ โปรตีน จากพืช
ที่ดีที่สุดเหมาะสมสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิง เนื่องจาก ถั่วเหลือง
มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับ ฮอร์โมนเพศหญิงที่อ่อนโยน
ที่ดีที่สุดเหมาะสมสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิง เนื่องจาก ถั่วเหลือง
มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับ ฮอร์โมนเพศหญิงที่อ่อนโยน
ถั่วเหลืองมี เส้นใยอาหาร ( Fiber ) และ ไฟโตเอสโทรเจน
( Phytoestogen
) สูง
โดยเฉพาะ ไอโซฟลาโวน ( Isoflavones ) ที่สำคัญ คือ เจนีสทีน และ เดดซีน ซึ่งช่วยปรับสมดุล และ ควบคุม การทำงานของ ฮอร์โมนเพศ และถั่วเหลืองยังมีโปรตีนครบสมบูรณ์ และ มีสัดส่วนของกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง 8 ชนิด อย่างสมดุล
โดยเฉพาะ ไอโซฟลาโวน ( Isoflavones ) ที่สำคัญ คือ เจนีสทีน และ เดดซีน ซึ่งช่วยปรับสมดุล และ ควบคุม การทำงานของ ฮอร์โมนเพศ และถั่วเหลืองยังมีโปรตีนครบสมบูรณ์ และ มีสัดส่วนของกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง 8 ชนิด อย่างสมดุล
ประโยชน์ของสารสกัดจากถั่วเหลือง
1.ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในเพศหญิง
2.ช่วยบรรเทาอาการวัยทองในสตรี
3.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4.ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหร่อ
5.ช่วยรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก
1.ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในเพศหญิง
2.ช่วยบรรเทาอาการวัยทองในสตรี
3.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
4.ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหร่อ
5.ช่วยรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก
สรรพคุณของถั่วเหลือง
1.
ใช้เป็นยาบำรุงโลหิต
ด้วยการใช้เปลือกเมล็ดแห้งประมาณ 10-15 กรัม
มาต้มกับน้ำดื่ม (เปลือกเมล็ด)[8]
2.
กากถั่วเหลือง สรรพคุณช่วยป้องกันการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด
(กากเมล็ด)[8]
3.
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
และมีบางการศึกษาระบุว่าการบริโภคถั่วเหลืองเป็นประจำ
อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย
และมะเร็งเต้านมในเพศหญิงวัยที่ยังมีประจำเดือน
แต่อาจเพิ่มโอกาสของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในเพศหญิงวัยที่หมดประจำเดือนแล้วได้
ซึ่งเป็นผลมาจากสารไฟโตเอสโตรเจน
แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีการศึกษาที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน
และยังไม่สามารถระบุได้ว่าถั่วเหลืองสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้[9] ช่วยป้องกันโรคมะเร็งของเนื้อเยื่อระบบสืบพันธุ์
(สารไฟโตเอสโตรเจน)[11] ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งมดลูก และมะเร็งเต้านม มะเร็งช่องคลอด มะเร็งต่อมลูกหมาก (Isoflavones) และจากงานศึกษาในประเทศญี่ปุ่นและจีนพบว่า
-ผู้ที่กินซุปเต้าเจี้ยวมากจะมีอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่ำกว่าผู้ที่ชอบรับประทานซุปที่ทำจากถั่วเหลือง
จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเพียง 1 ใน 3 ของผู้ที่ไม่ได้รับประทาน[10]
-ผู้ที่กินเต้าหู้มากจะมีอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะอาหารต่ำ [12]
-ผู้ที่กินถั่วเหลืองมากกว่า 5 กิโลกรัมต่อปี
จะมีอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารลด 40%[12]
-ผู้ชายที่กินเต้าหู้มากกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์
จะมีอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ชายที่กินเต้าหู้น้อยกว่า
1 ครั้งต่อสัปดาห์[12]
-ผู้ที่รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยถั่วเหลืองน้อยกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม 2 เท่า และมะเร็งปอดเป็น 3.5 เท่าของผู้ที่กินอาหารที่ประกอบด้วยถั่วเหลืองทุกวัน[12] สำหรับมะเร็งปอด
สารไอโซฟลาโวนจะช่วยถ่วงการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งไว้
(แต่ต้องไม่ใช้ถั่วเหลืองที่ผ่านการหมัก
และจะได้ประโยชน์เฉพาะกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่)[14]
-การบริโภคอาหารที่มีโปรตีนจากถั่วเหลืองจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้ถึง
30% (ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ)[14]
-จากการศึกษาทดลองพบว่า Isoflavones สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของก้อนมะเร็งในสัตว์ทดลองได้[15]
4.
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง[11]
5.
กรดไขมันไม่อิ่มตัวในเหลืองสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้[11] และจากการศึกษาพบว่าถั่วเหลืองมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ถึง
15-20% โดยผลจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาเลียน
ที่ได้ทำการทดลองในคนไข้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลมากกว่า 300 เนื่องมาจากพันธุกรรม[10] และจากการศึกษาพบว่า
ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโปรตีนจากถั่วเหลือง 25 กรัมต่อวัน
เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีระดับไขมันเลว
(LDL) ลดลงร้อยละ 18 และมีระดับไขมันดี
(HDL) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20[12]
6.
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐ
และสมาคมแพทย์โรคหัวใจในสหรัฐให้คำแนะนำว่าให้รับประทานโปรตีนจากถั่งเหลืองวันละ 25 กรัม จะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้[11],[12] และช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด (สารไฟโตเอสโตรเจน)[12]
7.
เส้นใยอาหารจากถั่งเหลือง
สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ (แอนดริว พี โกลด์เบิร์ก)
และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยโตรอนโต ดร.เดวิด เจนคินส์ ยังกล่าวว่า
ถั่วเหลืองเป็นพืชที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีที่สุด[10]
8.
ช่วยป้องกันการขาดแคลเซียม
ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก[6] ช่วยลดความรุนแรงของโรคกระดูกผุ[10] ช่วยลดการสลายของกระดูก
และป้องกันโรคกระดูกพรุน[12],[14]
9.
ช่วยบำบัดและรักษาผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต
เนื่องจากถั่วเหลืองมีสารไอโซฟลาโวน ที่ช่วยทำให้เลือดลมเดินสะดวก
ซึ่งเป็นผลการศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงได้ทำการศึกษากับคนไข้ 102 รายที่เป็นอัมพาตเพราะเส้นเลือดเลี้ยงสมองอุดตันมาก่อนและเป็นโรคหัวใจในเวลาต่อ[14]
10.
ถั่วเหลือง สรรพคุณช่วยขับแห้ง
ขับร้อน สลายน้ำ ถอนพิษ[6]
11.
ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
เนื่องจากถั่วเหลืองมีธาตุเหล็กสูง
แต่ในขณะเดียวกันก็มีสารต้านการดูดซึมธาตุเหล็กด้วย
ดังนั้นการจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้จะต้องรับประทานร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ
เช่น เนื้อสัตว์ หรือวิตามินซีจากผลไม้ เป็นต้น[14]
12.
ดอกสดใช้เป็นยารักษาต้อกระจก
(ดอก)[8]
13.
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ
(เปลือกเมล็ด)[8]
14.
การบริโภคถั่วเหลืองเป็นประจำ
จะช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรงขึ้น และช่วยลดโอกาสของการเป็นโรคถุงลมโป่งพองลง
วิธีรับประทาน SOYAMINO (โซยามิโน)
1-2 ช้อนตวง
(10 กรัม) หรือใช้ร่วมกับ LN3020 และ LN3021
เพื่อเสริมรสชาติในกรณีทำเป็นนมถั่วเหลืองชงดื่ม นอกจากนี้
ยังสามารถโรยลงไปบนอาหารทุกชนิดที่รับประทาน
เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0022
ขนาดและราคา 1 กล่อง 450 กรัม ราคา 1,150 บาท
บริการส่งฟรีทั่วประเทศไม่คิดค่าส่ง
สั่งซื้อที่ คุณ
วีระชัย ทองสา
ID Line : weerachaicoffee
โทร. 084-6822645 , 085-0250423(Line)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น